เรื่องจริงของ วิเชียร ในหนังเรื่องเด็กหอ

คาดว่าหลายคนคงได้ดู หนังเรื่องเด็กหอ กันแล้ว
แต่มีกี่คนที่จะรู้จัก”วิเชียร”มากกว่าตัวละครตัวหนึ่งในหนัง
ก่อน อื่น ต้องขอบอกว่าหนังเรื่องนี้มีเค้าโครงจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอัสสัมชัญ ศรีราชาตัวละครที่ชื่อวิเชียรนั้นก็เทียบได้กับเด็กที่ประสบอุบัติเหตุในขณะ เรียนอยู่ที่อัสสัมชัญ ซึ่งเด็กคนนั้นก็ชื่อวิเชียรเหมือนกัน ทาง ผกก. คงอยากหยิบยกเรื่องราวของวิเชียรมาถ่ายทอดในอีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่ใช่ความน่า กลัว
ต่อไปผมจะพูดถึงเรื่องของวิเชียรในอัสสัมชัญนะ ในสมัยก่อนนานแล้วทางโรงเรียนมีการสร้างบ่อน้ำขนาดใหญ่ขนาดเกือบเท่าสนาม ฟุตบอลไว้ให้นักเรียนได้ใช้หัดว่ายน้ำ ตกปลา ฯลฯ กลุ่มของวิเชียรก็ได้ใช้บ่อน้ำนั้นหัดว่ายน้ำด้วย ขณะที่เล่นอยู่วิเชียรเกิดเป็นตะคริว ทำให้จมน้ำ พยายามร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แต่ก็นึกว่าเป็นเพียงการแกล้งของวิเชียร จึงไม่สนใจ แล้วพากันกลับหอ ฝ่ายวิเชียรเมื่อสิ้นแรงก็ค่อยจมดิ่งลงสู่ก้นสระพร้อมกับสติสัมปชัญญะที่ ค่อยๆเลือนลางลงทุกที ไม่นานนักวิเชียรก็จากโลกนี้ไป วันรุ่งขึ้นก็มีคนมาพบศพของวิเชียร แล้วก็มีการทำพิธีต่างๆเพื่อเชิญวิญญาณ แต่หลายคนบอกว่าวิเชียรยังไม่ไปไหน ยังคงรอความช่วยเหลืออยู่ที่ก้นสระนั้นเอง
จากนั้นมา บ่อน้ำนั้นก็ไม่มีคนไหนกล้าลงไปเล่นอีกเลย และบ่อน้ำนั้นก็ได้รับการขนานนามว่า “บ่อวิเชียร” ซึ่งเด็กอัสสัมฯเก่าคงรู้ดี ความน่าสะพรึงกลัวของบ่อวิเชียรนี้มีเรื่องเล่าจากหลากหลายผู้คนซึ่งประสบ ด้วยตนเอง มีเรื่องเล่าว่า
วันลอยกระทงเด็กทั้ง โรงเรียนเป็นร้อยๆ ไปลอยกระทงที่นั่นกันไม่เคยกลัว แต่ที่ยังกลัวก็คือว่า มีคืนนึงเหมือนมีใครเอาความสว่างกับเสียงจอแจของเด็กตึกเทโอฟานไปซ่อนที่ไหน ไม่รู้ รู้แต่ว่าเสียงร้องเพลงเชียร์บนรถก็ยิ่งดังขึ้นเพื่อกลบความกลัวให้มิด แต่ใครไม่รู้ดันร้อง เฮ้ย..เฮ้ย ทุกคนเลยหยุดร้องแล้วหันตามไปดู บ่อวิเชียรที่เวิ้งว้าง ดำมืด มีเด็กใส่ชุดนักเรียนยืนกวักมืออยู่กลางบึงน้ำ ทุกคนแหกปากกันระงม กระโดดไปรวมกันตรงกระจกข้างหลังคนขับ มาสเตอร์รีบขับผ่านตรงนั้นไปอย่างรวดเร็ว พอถึงตึกท้ายโรงเรียนทุกคนรีบวิ่งกันไปรวมกับเด็กหออื่น น้องบางคนร้องไห้ รุ่นพี่ที่เป็นกระเทยแหกปากร้องไห้ใหญ่เลย ปวดฉี่ก็ไม่กล้าไปห้องน้ำ มาสเตอร์เดินมาบอกว่าไม่มีอะไรหรอกน่า คิดในใจว่า รู้ได้ไงว่ามีอะไรไม่มีอะไร แล้วรีบขับทำไม ดูหนังออนไลน์ไทย บางคนคิดว่าเด็กตึกเทโอฟานแกล้ง แต่บึงมันลึกท่วมหัว ใครจะไปยืนกวักมือบนผิวน้ำได้ มันลงทุนเกินเด็กแล้ว หลังจากกนั้นมาสเตอร์ไม่ขับผ่านไปทางนั้นอีกเลย หากวันนั้นมีใครบนรถตกใจตาย ปีต่อไปคงเปลี่ยนคนกวักเป็นแน่
แล้วยังมีเรื่องเล่า อีกว่า ทุกๆคืน ยิ่งเป็นคืนที่ท้องฟ้าไม่มีแสงจันทร์แล้วล่ะก็ คนที่ผ่านบ่อวิเชียรจะเห็นเด็กคนนึง ร่างกายเปียกชุ่มยืนอยู่กลางน้ำ กวักมือเรียกให้ลงไปในน้ำ มีบางคนจิตไม่แข็งพอ ตกอยู่ในภวังค์เดินตามลง แล้วก็ปรากฏมีเด็กตายเพิ่มขึ้นอีกในเวลาต่อมา จนทางโรงเรียนต้องทำศาลและเชิญวิญญาณให้มาอยู่ในศาลนั้น ไม่ถึงสิบปีจากนั้นก็มีข่าวว่ามีนักเรียนจมน้ำตายในสระน้ำที่อยู่หน้าบ่อ วิเชียรนั้นนั่นแหละ แล้วก็มีเด็กจมน้ำอีก ดีที่มาสเตอร์เห็นอะไรดำๆก้นสระเลยรีบกระโดดลงไปดู แล้วช่วยไว้ได้ ไม่ได้เล่าเพื่อให้เกลียดกลัวที่นั่นนะ แต่ผมว่า แต่ละที่ก็มีเนื้อหาในกาลเวลาของมัน ผมว่าวิเชียรคงไปเกิดนานแล้ว (มีแต่เด็กที่เป็นตัวตายตัวแทนนั่นแหละที่จ้องเอาชีวิตคุณอยู่ หุหุ)
แต่ ต่อมาในสมัยท่านอธิการวิจารณ์ ท่านได้ส่งเสริมความสำคัญของบ่อน้ำนี้ขึ้นมา โดยนำพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำมาปล่อยในสระ เด็กนักเรียนก็เฮโลกานหญ่าย มีงานอดิเรกเป็นการตกปลา ช้อนกุ้งกัน ตอนนั้นรู้สึกว่าตอนนั้นเด็กอัสสัมจามีอาหารเสริมเป็นมาม่าต้มยำกุ้ง โดยใช้กุ้งจากบ่อวิเชียรนั่นแหละ หลังจากนั้นอาถรรพ์ของบ่อวิเชียรจึงเริ่มเบาบางลงด้วยความคึกครื้นของเด็ก ที่มาตกปลานั่นเอง แต่น่าเศร้าเมื่ออธิการวิจารณ์ต้องจากโลกนี้ไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้บ่อวิเชียรขาดคนดูแล ความน่ากลัวจึงเข้าครอบงำบ่อน้ำนั้นอีกครั้ง
ปัจจุบัน บ่อวิเชียรได้รับสถาปนาขึ้นเป็น “บ่อนักบุญหลยุส์”หรือบ่อหลุยส์ ไม่รู้ทำเพื่อลบล้างอาถรรพ์หรือจาลบความกลัวออกจากใจของเด็กเป็นแน่ แต่ขณะนี้น้ำในบ่อก็แห้งขอดลงมาก คงไม่มีเด็กคนไหนโดดไปจมน้ำตายหรอก คงหัวกระแทกก้นบ่อตายมากกว่า
รีวิวหนัง เด็กหอ ภาพยนตร์ไทยแนวหนังสยองขวัญ ที่ไม่ควรพลาด
รีวิวหนัง เด็กหอ เป็นภาพยนตร์ไทย แนวสยองขวัญที่ถูกนำเข้ามาฉายเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 กำกับการแสดงโดยทรงยศ สุขมากอนันต์ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการร่วมลงทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่ถึง 3 บริษัท ได้แก่ GMM GRAMMY, Thai Entertainment, Hub Ho Hin แต่ปัจจุบันบริษัท Thai Entertainment พร้อมกับนักแสดงนำ จินตหรา สุขพัฒน์ (แหม่ม) แสดงเป็น ครูปราณี , ชาลี ไตรรัตน์ (แน็ก) แสดงเป็น ต้น หรือ ชาตรี , ศิรชัช เจียรถาวร (ไมเคิล) แสดงเป็น วิเชียร โดยเนื้อเรื่องถูกสร้างมาจากเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริงโดยเป็นเรื่องเล่าที่เคยได้ยินมาจากโรงเรียบ อัสสัมชัญ ศรีราชา โดยตัวละคร วิเชียรนั้น ก็มีอยู่จริงซึ่งเด็กคนนั้นได้ประสบอุบัติเหตุในขณะที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ซึ่งเด็กคนนั้นก็ชื่อวิเชียรเหมือนกัน นั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นและแรงบรรดาลใจให้กับผู้กับที่ได้กำกับภาพยนต์เรื่องนี้
ซึ่งเนื้อหา และเรื่องราวของภาพยนตร์นั้นสามารถสื่ออารมณ์ได้เป็นอย่างดี ในหลายๆ ฉาก หลายๆ ตอนนั้นสอดแทรกให้ได้คิด การดำเนินเรื่องราวของภาพยนต์บอกได้เลยว่าชวนให้น่าติดตามเป็นอย่างมากทำให้ลุ้นได้ทุกฉากทุกตอน ในด้านตัวละครในเรื่องนั้นผู้กำกับได้เสนอในแง่มุมต่างๆ และสามารถดึงความเก่งความสามารถของนักแสดงออกมาได้อย่างชัดเจน เช่น ครูปราณีที่มีความรักลูกศิษย์มาก ถึงแม้จะมีความดุและความเข้มงวดมากก็ตาม แต่ในความดุและความเจ้าระเบียบก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยนเช่นกันและสาเหตุที่ทำให้ครูปราณีมีนิสัยแบบนี้ก็เพราะเหตุการที่เกิดขึ้นกับลูกศิษย์อย่างวิเชียร ทำให้เธอโทษตัวเองว่ามีส่วนผิดนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอนั้นมีความเข้มงวดมากขึ้นถ้านับว่า การบิ้วท์อารมณ์ของผู้ชมจะใช้เสียงดนตรีเป็นหลักซึ่งมันทำให้ภาพยนต์ให้ความรู้สึกผวาและน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นหนังผีไทยอันดับต้นๆ ที่เราไม่ควรพลาดเช่นกัน
เรื่องย่อ ของภาพยนตร์เรื่องเด็กหอ
การเปิดเรื่องเปิดได้อย่างหน้าสนใจโดยเปิดมาที่ ชาตรี เด็กชายวัย 12 ปี ถูกพ่อแท้ๆส่งมาเรียนที่โรงเรียนประจำ เพราะเขาดันไปรู้ความลับของพ่อเขา ทำให้ต้องถูกย้ายโรงเรียนใหม่ตั้งแต่กลางเทอม โดยที่เขาต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ และที่นอนที่เขาต้องพักอาศัยอยู่รวมถึงการปรับตัวเพื่อที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ พอเขามาถึงที่หอพัก ครูได้พาเขาไปที่เตียงแจ้กฎต่างๆของโรงเรียนให้เขารับทราและด้วยความที่เขาเป็นเด็กใหม่ที่ถูกย้ายมากลางเทอมทำให้เขาไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวทำให้เขาชอบหนีไปอยู่สระว่ายน้ำเก่าๆหลังโรงเรียนคนเดียวบ่อยๆ และนั้นก็เป็นเหตุการณ์ทำให้เขาได้ไปรู้จักกับ วิเชียร เพื่อนร่วมห้องที่เหมือนจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโรงเรียบนี้ หลังจากนั้นมิตรภาพระหว่างเพื่อนก็ได้เกิดขึ้น จนวันหนึ่งชาลีได้รู้ความจริงว่าวิเชียรไม่ใช่คน แต่เป็นผี ทำให้เขาถอยห่างออกจากวิเชียรด้วยความกลัว แต่เพราะความผูกพันธ์ และมิตรภาพระหว่างเพื่อนทำให้เขาได้เริ่มสืบค้นหาการตายของวิเชียร สาเหตุที่วิเชียรไม่ไปเกิดทำให้เขาได้ล่วงรู้ความลับของโรงเรียน เขาจึงได้หาวิธีเพื่อปลดปล่อยให้เพื่อนของรวมถึง การไปอธิบายช่วยให้ครูปราณีเลิกโทษตัวเองว่าตนเป็นสาเหตุที่ทำให้วิเชียรตาย จากนั้นเขาได้ไปถอดวิญญาณของตัวเองออกมาเพื่อไปช่วยเพื่อน หลังจากนั้นวิเชียรโดยได้ไปช่วยเพื่อนเขาจากการจมน้ำ ทำให้วิเชียรหลุดพ้นจากบวงกรรมและก็ได้ไปเกิดใหม่ โดยฉากตอนสุดท้ายแสดงให้เห็นถึงความรักความผูกพันธ์ของมิตรภาพระหว่างเพื่อนออกมาให้คนดูได้เห็นว่าทั้งคู่นั้นผูกพันธ์กันมากแค่ไหน
รีวิว บทสรุปและการตีความของภาพยนตร์เรื่อง เด็กหอ
แก่นของหนังเรื่องนี้ต้องการสื่อถึงมิตรภาพที่สวยงามที่แม้แต่ความตายก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เปิดเรื่องมาที่พ่อของชาลีได้ส่งชาลีไปเรียนที่โรงเรียนประจำซึ่งนั้นก็เป็นสาเหตุ หรือ จุดเริ่มต้นของการพบเจอกันของชาลีและวิเชียร ทำให้เรื่องราวต่างๆได้เกิดขึ้น โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เน้นถึงฉากผีที่หลอนจนขนลุก และผีในเรื่องไม่ได้มีความอาฆาตหรือการตามล้างแค้นใคร แต่เป็นการกล่าวถึงเรื่องราวของมิตรภาพของเด็ก2 คนที่มีให้ต่อกันแบบเพื่อน โดยจะสื่อให้เห็นถึงแง่มุมต่างๆของตัวละคร โดยฉากส่วนใหญ่จะอยู่ที่สระน้ำแห่งหนึ่งในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีและฉากที่เอามาฉายส่วนใหญ่จะเป็นฉากตอนกลางคืนหากเป็นฉากไหนต้องถ่ายทำตอนกลางวันก็จะเป็นโทนสีหม่นๆเพื่อสร้างความสยองขวัญให้กับหนัง การเล่าเรื่องราวที่ไม่ซับซ้อนจนเกินไป ผู้กำกับสามารถเสนอเรื่องราวออกมาได้อย่างน่าสนใจ โดยการดำเนินเรื่องนั้นผู้กำกับจะสร้างปมให้คนดูได้แก้และติดตามและค่อยๆ เฉลยทุกอย่างมาในฉากสุดท้ายซึ่งถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว
ภาพยนตร์เรื่องนี้เคยถูกวิจารณ์ในเว็ปพันทิปว่าเป็นหนังที่มีเค้าโครงคล้ายกับภาพยนต์สเปนเรื่อง EI Espinoza del diablo(The Devil’s backbone) แต่ผู้กำกับอย่างทรงยศได้ออกมากล่าปฏิเสธแล้วบอกไปว่าเรื่องรวามของภาพยนต์เรื่องวเด็กหอนี้ตนเองได้รับแรงบรรดานใจมาจากเรื่องเล่าที่เคยได้ยินมาขณะที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชาเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเกี่ยวข้องกับหนังสเปนเรื่องนี้แต่อย่างไร
รางวัล : รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาลำดับภาพยอดเยี่ยม, รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม